โถฉี่สเตนเลสเป็นโถฉี่ที่มีความแข็งแรงทนทานเมื่อเปรียบเทียบกับโถฉี่ที่ทำจากวัสดุอื่นๆ

เนื้อเรื่อง

            หากกล่าวถึงโถฉี่หรือโถปัสสาวะสำหรับท่านชายแล้วละก็ ในปัจจุบันมีโถที่ผลิตขึ้นหลากหลายรูปแบบนะครับ ไม่ว่าจะเป็นโถฉี่รูปทรงกระเปาะ แบบรางและมีผนังคั่นระหว่างช่องปลดทุกข์ หรือรูปทรงต่างๆ ที่ถูกคิดสร้างสรรค์ออกมาอย่างหลากหลาย และมากกว่ารูปทรงดีไซน์ ปัจจุบันโถฉี่ก็ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุมากมายหลายชนิดครับ แต่ที่เราคุ้นหูคุ้นตาส่วนใหญ่มีอยู่ 2 ชนิดหลักๆ นั่นคือ โถฉี่แบบกระเบื้องเซรามิค แบบที่คุณผู้ชายส่วนใหญ่คุ้นตาเป็นอย่างดี กับโถฉี่สเตนเลส นั่นเอง

            ซึ่งวันนี้ เราจะมาคุยให้ฟังกันครับ ถึงวิธีการทำโถฉี่ทั้ง 2 รูปแบบ เริ่มกันที่โถฉี่แบบกระเบื้องเซรามิคกันก่อนเลย

            ขั้นตอนการผลิตโถฉี่กระเบื้องเซรามิคนั้น ขอเล่าตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตเซรามิคเลยแล้วกันนะครับ โดยเซรามิคนั้นทำมาจากส่วนผสม 4 ชนิด นั่นคือ ดินขาว ดินดำ ทรายแก้ว และหินฟันม้าครับ  โดยดินขาวมีคุณสมบัติของความแข็ง และให้สีขาว (ดังที่เราเห็นเซรามิคเป็นสีขาวนั่นแหละครับ) ส่วนดินดำให้คุณสมบัติของความเหนียว ขณะที่ทรายแก้วมีคุณสมบัติช่วยให้ดินไม่ดูดซับความชื้น และหินฟันม้ามีคุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิขณะเผาไหม้ โดยส่วนผสมทั้งสี่นี้ ผู้ผลิตแต่ละเจ้าแต่ละรายก็จะมีอัตราส่วนในการผสมที่แตกต่างกันไปครับ เรียกว่าสูตรใครสูตรมัน

            หลังจากทำการผสมส่วนผสมทั้งสี่เรียบร้อยแล้ว ก็นำดินที่ได้มาปั้นขึ้นรูปเป็นโถฉี่ครับ ซึ่งผู้ผลิตบางเจ้าที่ทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ก็อาจใช้วิธีการทำแบบพิมพ์ขึ้นรูป หรือ Model ต้นแบบโดยใช้ปูนปลาสเตอร์ เพื่อให้โถฉี่ที่ได้ออกมามีขนาด รูปทรง และสัดส่วนที่พอดีเท่ากันเป็นมาตรฐานครับ เมื่อทำแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์เสร็จแล้ว ก็นำน้ำดินที่เตรียมไว้ฉีดใส่เข้าไปในแบบแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ หลังจากนั้นรอประมาณ 1-2 ชั่วโมง ปูนปลาสเตอร์จะทำหน้าที่ดูดน้ำออกจากดิน เมื่อแกะปูนปลาสเตอร์ออก ดินก็จะแห้งหมาดๆ พอดี แล้วก็จะนำมาตกแต่ง ตัดส่วนที่เกิน เติมส่วนที่ขาด ให้ได้เป็นรูปทรงของโถฉี่ที่สวยงามตามที่ต้องการครับ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ แบบแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์นั้นจะใช้ซ้ำกันประมาณ 80 ครั้งก็จะเปลี่ยนครับ เพราะหมดสภาพ ใช้ต่อไม่ได้ อาจทำให้ดินที่ขึ้นรูปไม่สมบูรณ์